วันนี้มีข่าวที่น่าสนใจคือเด็กอายุ 13 ปีเล่นเกม Cookie Run ผ่านมือถือแล้วกดซื้อไอเทมในเกม พอสิ้นเดือนใบเสร็จเรียกเก็บเงินถูกส่งมาที่บ้านแล้วผู้ปกครองถึงกับช็อคเพราะลูกใช้เงินซื้อของไปถึงสองแสนกว่าบาท จากข้อมูลในข่าว เด็กคนนี้เล่นเกมบนมือถือ Samsung Galaxy และจากรูปใบเสร็จเป็นสีเขียว ก็น่าจะเป็นใบเสร็จของค่าย AIS
ภาพใบเสร็จเรียกเก็บเงินสองแสนกว่าบาท (ที่มา – เดลินิวส์)
สาเหตุของการถูกเรียกเก็บเงินเยอะขนาดนี้ น่าจะเกิดจากการใช้บริการ AIS Carrier Billing ที่สามารถจ่ายเงินซื้อแอปหรือบริการใน Google Play โดยจ่ายเงินผ่านผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือได้
จากข่าวบอกว่ามีการตั้งจำกัดวงเงินในการซื้อของไว้ที่ไม่เกิน 1,000 บาท แต่พอบิลออกมากลับพบว่ามีการซื้อของไปถึง 200,000 บาท ในส่วนนี้ผมเข้าใจว่าการจำกัดวงเงินน่าจะหมายถึงไม่สามารถจ่ายเงินซื้อของได้เกินครั้งละ 1,000 บาท แต่สามารถซื้อของราคาไม่เกิน 1,000 บาทได้เรื่อยๆ ไม่จำกัดจำนวนครั้ง และเนื่องจากไม่มีการจำกัดวงเงินสูงสุดที่สามารถใช้จ่ายได้ต่อเดือน ก็เลยสามารถซื้อของจนหมดเงินสองแสนกว่าบาทได้
ถึงแม้ว่าปัจจุบันนี้ทั้ง Google Play Store และ Apple App Store จะสามารถตั้งค่าได้ว่าต้องใส่รหัสผ่าน Google Account ก่อนถึงจะสามารถจ่ายเงินซื้อแอปจาก Store ได้ (ดูวิธีการตั้งค่าใน Play Store) แต่เอาเข้าจริงๆ โดยส่วนใหญ่ก็เด็กนั่นแหละที่เป็นคนใช้มือถือและเป็นคนสมัคร Google Account เอง ส่วนผู้ปกครองมีหน้าที่แค่ซื้อมือถือและจ่ายค่าบริการรายเดือนให้ แต่ไม่ได้มีความรู้มากพอที่จะมาควบคุมการใช้มือถือของเด็กได้ วิธีการนี้ก็เลยอาจทำให้ไม่ได้ผลจริงในทางปฏิบัติ
ข่าวนี้น่าจะเป็นอุทาหรณ์ที่ดีสำหรับผู้ปกครองและผู้ให้บริการมือถือครับว่าจะมีวิธีการป้องกันอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก ทางผู้ปกครองเองก็อาจจะต้องศึกษาวิธีการจ่ายเงินผ่านอินเทอร์เน็ต และทางผู้ให้บริการเองก็คงต้องมีการตรวจสอบความผิดปกติในการจ่ายเงิน เช่นถ้าพบว่าก่อนหน้านี้มีค่าบริการแค่เดือนละประมาณ 300-500 แต่เดือนนี้ค่าบริการพุ่งไป 2-3 เท่าก็ควรจะรีบโทรมาสอบถามลูกค้าแต่เนิ่นๆ แล้วว่ามีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นหรือเปล่า ไม่ใช่รอให้กดซื้อของไปเป็นหมื่นเป็นแสนแล้วค่อยมาแก้ปัญหากันทีหลัง
วิธีป้องกันที่ดีกว่าการตั้งให้ใส่รหัสผ่านเวลาจะซื้อของผ่าน Store ผมมองว่าเปิดบัญชี Debit Card ขึ้นมาเพื่อเอาไว้สำหรับซื้อของผ่านอินเทอร์เน็ตโดยเฉพาะ แล้วโอนเงินเข้าไปในบัญชีนั้นตามความเหมาะสม (เช่น 2,000 บาท) จากนั้นตั้งค่าจำกัดวงเงินเอาไว้ (เช่นไม่เกิน 1,000 บาท) เพราะวิธีนี้ต่อให้รหัสผ่าน E-Banking ของบัญชีนี้หลุดออกไป ความเสียหายก็จะไม่เกินปริมาณเงินที่เราใส่เข้าไปในบัญชี อีกอย่างในบางธนาคารเราสามารถตั้งให้ส่ง SMS มาแจ้งเตือนได้ทุกครั้งที่มีการหักเงินออกจากบัญชี ซึ่งก็จะช่วยให้สามารถสังเกตความผิดปกติได้ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้
อ้างอิงข่าว – เดลินิวส์
*เพิ่มเติม* ก่อนหน้านี้เคยมีเหตุการณ์เด็กเล่นมือถือแล้วกดซื้อของในเกมจนหมดเงินไปเยอะเหมือนกัน แต่ทาง Apple ได้เข้ามาดูแลเคสนี้และเปิดให้ผู้ปกครองสามารถขอเงินคืนในกรณีที่เด็กเผลอกดซื้อของในเกมได้ สำหรับในข่าวนี้เป็น Play Store ก็ต้องรอตามข่าวกันอีกทีครับว่าทาง AIS กับ Google จะสามารถประสานงานกับทาง LINE เพื่อขอยกเลิกการซื้อของในเกมได้หรือเปล่า
*เพิ่มเติม2* ดูวิธีการป้องกันและแก้ไขปัญหาได้จากบทความนี้เลยครับ [ข้อแนะนำ] วิธีป้องกันเด็กเล่นเกมในมือถือแล้วกดซื้อของเพลินจนหมดเงินเป็นแสน
