Hitman ชื่อนี้คงทำให้ใครหลายคนนึกภาพของนักฆ่าหัวโล้นสวมไทด์สีแดงที่มีนามอันแสนประหลาดว่า ’47’ ที่แจ้งเกิดในวงการมาตั้งแต่ปี 2000 กับสุดยอดเกม Stealth มุมมองบุคคลที่สามบนเครื่อง PC ซึ่งไม่นานมานี้ก็พึ่งมีภาคใหม่ออกมาอย่าง Hitman: Absolution โดยทาง Square Enix ได้โชว์พลังของ Engine ใหม่ที่ก็ทำให้ 47 ดูพริ้วไหวสมจริงราวกับทะลุออกมานอกจอ และวันนี้ผมก็จะมาแนะนำให้รู้จักภาคใหม่ คือ Hitman: Go ซึ่งเปลี่ยนรูปแบบการเล่นจากเดิมที่เป็นเกมมุมมองบุคคลที่สามกลายมาเป็นเกมหมากบนกระดาน (ฮะ!! นี่มันเปลี่ยนขนาดนี้แล้วมันจะยังสนุกหรอ) แต่สิ่งที่เป็นหัวใจความสนุกของเกมนี้ยังคงเหมือนเดิมคือการเล่นที่ต้องอาศัยการวางแผนและ Tactic ต่างๆ ซึ่งผมขอบอกเลยว่า “มันลงตัวมากกับการเอามาเล่นบนมือถือ”
เมื่อเข้าไปในเกม
ยอมรับครับว่าครั้งแรกที่เปิดเกมเข้ามาผมคาดหวังว่าน่าจะได้เห็นอะไรที่ดูหวือหวาสักหน่อย แบบว่าไม่ค่อยได้ตามข่าว วู่วามซื้อไว้ก่อนเลย ก็แหม..!! ตัว Absolution ทำไว้ซะงดงามขนาดนั้น ผมก็คิดว่าจะได้เห็น Agent 47 ในแนวคล้ายๆกับเกม Commandos ซักหน่อย (ใครไม่รู้จักหรือไม่เคยเล่น คลิกดูคลิปตัวอย่างที่นี่) แต่แม่เจ้าพอเปิดเข้ามาผมเริ่มรู้สึกได้ถึงความ Minimalist (เรียบๆง่ายๆ) ตั้งแต่หน้า Home เพราะมันไม่มีอะไรเลยนอกจากรูป Agent 47 กับปุ่ม Settings และปุ่ม Go ซึ่งก็อุตส่าห์เอาชื่อเกมมาทำปุ่มได้อย่างแนบเนียนเลย
ได้เวลา GO !!
แล้วเซ็นส์ที่ว่าเกมนี้ไม่น่าจะหวือหวาอย่างที่คิดของผมมันก็เริ่มจะถูกขึ้นมาเรื่อยๆ เพราะแม้แต่ในการเลือกด่านมันก็ไม่ได้มีบอกรายละเอียดอะไรมากมายครับนอกจากรูปกล่องที่วางเรียงกัน ซึ่งถ้าเราเคยเล่นภาค PC มาก่อนคุณจะได้คำอธิบายมาให้ได้อ่านกันก่อนจะทำภารกิจกันบ้างล่ะ ซึ่งจริงๆแล้วถ้ามองกันดีๆไอ้รูปที่อยู่บนกล่องก็จะมีการบอกอยู่แล้วว่าเป้าหมายในการสังหารคือใคร ว่าง่ายๆคือเอาให้รู้เนื้อๆไปเลยละกันว่าจะต้องไปฆ่าใครหน้าตาเป็นยังไง ส่วนพวกน้ำๆที่เคยเป็นตัวหนังสือมายาวๆ ไม่ต้องมีมันซะก็ได้หรอก แหม่.. นี่มัน Minimalist จริงๆ
พอเลือกภารกิจหลักแล้วภายในนั้นก็จะมีแผนที่ให้เห็นถึงการเดินทางไปสังหารเป้าหมายที่อยู่บนปกว่าต้องผ่านกี่ภารกิจย่อยบ้าง ซึ่งผมก็เริ่มเห็นความเป็นเกมกระดานชัดขึ้นมาจากจุดนี้
เริ่มภารกิจ
เข้ามาปุ๊ป ภาพของเกม Commandos ที่อยู่ในหัวของผมก็หายวับไปกับตาครับ เพราะสิ่งที่เห็นนี่มัน เห้ยยย!! เกมกระดานเดินหมากชัดเจนเลยนี่หน่า ตัวละครในเกมไม่มี Action อะไรครับ นอกจากยืนแข็งทื่อเป็นหมากบนกระดานอย่างกับหมากรุกที่เคยเล่นกันมาแต่เด็ก ซึ่งพอได้เริ่มลองเล่นไปตามภารกิจแรกๆ ก็จะเข้าใจได้ง่ายๆครับว่าเกมนี้เล่นยังไง เอาเข้าจริงมันก็คล้ายๆกับหมากรุกบ้านเรานี่แหละครับ เพียงแต่ว่าเราไม่ได้เล่นกันแบบ 2 ฝั่งยกทัพมาใส่กัน อันนี้เรามีหมากแค่ตัวเดียว ที่จะต้องเดินไปกินฝั่งตรงข้ามให้ได้หรือจะเดินหมากไปเรื่อยๆ จนถึงที่หมายได้ก็เป็นอันผ่านภารกิจ แต่ก็ไม่ใช่ว่าฝ่ายตรงข้ามจะยืนเฉยๆให้เรากินนะครับ มันก็กินเราได้เหมือนกัน แต่มีรูปแบบความสามารถในการกินที่ต่างกันออกไปด้วย เช่น บางตัวก็กินได้แค่ช่องเดียว บางตัวกินได้แม้เราจะอยู่ห่างจากมันซะหลายช่องเหมือนในหมากรุกนั่นแหละครับ ซึ่งนอกจากเรื่องของการกินแล้วยังมีเรื่องของการเดินที่บางครั้งเราอาจจะเดินไปติดมุมอับทำให้เดินต่อไปทางไหนก็ตายเหมือนกันถ้าเป็นภาษาหมากรุกก็คือโดนรุกฆาตนั่นเอง ในรูปตัวอย่างนี้ก็จะให้ดูนะครับว่าเวลาเราเดินแต่ละที หมากของอีกฝั่งก็จะขยับได้
จริงๆ ตอนแรกผมตั้งใจจะเขียนรายละเอียดของการเล่นให้มากกว่านี้นะครับ ตั้งแต่ชนิดของตัวละครแต่ละตัวว่าทำอะไรได้บ้างหรือเทคนิคอะไรนิดๆหน่อยๆในการเล่น แต่ผมก็ลบมันออกไปเพราะผมคิดว่ามันจะกลายเป็นการสปอยด์คุณๆแทนน่ะสิครับ ความสนุกของเกมนี้มันจะอยู่กับการที่ผู้เล่นได้สังเกตดูศัตรูแต่ละชนิดว่ามีความสามารถอย่างไร แล้วจะต้องวางแผนการเดินแบบไหนถึงจะทำให้จบภารกิจได้ และถึงแม้เกมนี้จะถูกเปลี่ยนมาเป็นเกมหมากกระดานแล้วก็เถอะ แต่มุกคลาสสิกที่เหล่าคุณๆ เคยใช้ในภาค PC ก็ยังติดตามมาด้วย ทำให้คุณยังคงได้กลิ่นอายความเป็น Agent 47 อยู่ไม่ขาดสายนะครับ ไม่ว่าจะเป็นการโยนหินหรือสิ่งของเพื่อล่อศัตรูไปทางอื่น การเปลี่ยนชุดเพื่อปลอมตัวเข้าไปหาเป้าหมายหรือการหลบอยู่ในพุ่มไม้ เกมนี้ก็สามารถเอามันมาใช้กับรูปแบบหมากกระดานได้อย่างเหมาะสมและลงตัวเอามากๆ บอกเลยว่าเพลินครับจุดนี้ เล่นง่ายๆเข้าใจไม่ยากผ่านสบ๊ายยยย 😉
เย่ จบภารกิจแล้ว!! แต่เอ๋ ?
จบภารกิจได้แล้วแต่เหมือนมันไม่จบ มันไม่สุด ดูไม่ใช่ ก็ให้ตายเถอะครับ เกมนี้มันดันมีเป้าหมายให้ทำในแต่ละภารกิจอยู่ 3 ข้อ ซึ่งก็แล้วแต่ว่าจะเป็นอะไร แน่นอนล่ะครับว่าไอ้เจ้านี่แหละ ที่ทำให้ผมต้องเล่นด่านเดิม วนซ้ำๆอยู่ไม่รู้กี่รอบ เพื่อจะเก็บมันให้ครบทั้ง 3 ดาว ถ้าจะเทียบอารมณ์ก็คงไม่ต่างจากตอนที่คุณๆเล่น Angry Birds กันแน่นอนล่ะครับ แหม่จบแบบดาวเดียวเนี่ยมันไม่สุด อยากให้สุดต้องได้ดาวครบก่อนค่อยไปเล่นด่านถัดไปใช่ไหมล่ะ แต่มันก็ไม่ได้ยากจนเกินไปครับเพราะเราไม่จำเป็นจะต้องจบภารกิจแบบรวดเดียวทำครบทุกข้อที่มันกำหนดมา เราสามารถเก็บมันไปทีละข้อก็ได้ครับ เช่น จากในรูปตัวอย่างครั้งถัดไป ผมก็อาจจะเลือกไปเก็บกระเป๋าให้ได้ก่อน แล้วค่อย replay ใหม่เผื่อเล่นให้จบใน 20 ตาอีกรอบนึงก็ได้ ผมขอบอกเลยนะครับว่าในบรรดาข้อกำหนดต่างๆมากมาย ผมเกลียด “XX TURNS OR LESS” ที่สุดแล้ว คิดกันหัวแตกเลยทีเดียว ><”
ในที่สุดก็เล่นจบ
หลังจากที่เล่นมันผ่านไปได้ทุกภารกิจ สิ่งแรกที่ผมรู้สึกขึ้นมาได้คือ “จบแล้วหรอ ทำไมมันสั้นจังวะ ยังอยากเล่นต่ออยู่เลย” ใช่ครับ ภารกิจมันสั้นจริงๆ เล่นแป๊ปๆก็จบได้แล้ว ของผมเล่นอยู่ 3 วันครับ ส่วนใหญ่จะเล่นตอนเดินทางบนรถไฟฟ้าไปทำงานแล้วก็ขากลับตอนเลิกงานครับ แต่อยากจะบอกว่าในความสั้นเนี่ยมันได้ความสนุกแบบเรียบๆ ง่ายๆ ไม่หวือหวาจริงๆ ถึงแม้ตอนแรกผมจะคาดหวังเอาไว้กับการจะได้เห็น Agent 47 บู๊แหลกแบบ Commandos แต่มันก็ทำให้ผมวางไม่ลงเหมือนกันเมื่อได้หยิบมันขึ้นมา (บางครั้งก็เกือบลงเลยป้าย) ด้วยการออกแบบเกมที่มีความหลากหลายของตัวละครและอุปกรณ์อื่นๆที่ใช้ได้ภายในฉากที่ถูกนำเสนอออกมาให้เล่นกันแบบง่ายๆ (มั้ย ?) จนกลายเป็นประสบกาณ์ในการเล่นแบบใหม่ๆ ที่ก็สนุกไม่แพ้ตัว Original บน PC เลยทีเดียว แล้วผมก็คิดว่าต่อให้เอาตัวเวอร์ชั่น PC มาเล่นบนมือถือก็อาจจะไม่สนุกเท่าตัวนี้ครับเพราะมันคงบังคับยากจนหงุดหงิดเลยทีเดียว สรุปสั้นๆเลยว่า ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งชอบเสน่ห์ของ Hitman ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการวางแผนหรือการที่เป็นแนว Stealth คุณก็ไม่ควรพลาด Hitman : GO ครับผม มีให้ดาวน์โหลดกันทั้งใน App Store และ Google Play กันเพียง 4.99 $ เองนะครับ (เองหราาาาา)