รีวิว Mad Max : แม็กซ์ตะลุยแดนเถื่อน

Mad Max ฉบับเกม สร้างจากโลกของภาพยนตร์ Mad Max : Fury Road ที่เพิ่งจะเข้าโรงไปเมื่อเดือนกลางปีที่ผ่านมา ตัวเกมเป็นเนื้อเรื่องของ Max ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์โลกล่มสลาย ทะเลเหือดแห้งกลายเป็นทะเลทราย ผู้คนรุ่นใหม่ ๆ ต่างกลายพันธุ์เป็นมนุษย์ที่มีรอยตะปุ่มตะป่ำตามร่างกาย ว่ากันง่าย ๆ คือเกมนี้ได้แทบทุกอย่างมาจากตัวภาพยนตร์เลยครับ แต่สร้างบนเนื้อเรื่องใหม่ ที่อาจจะต่อเนื่องกับภาพยนตร์ หรืออาจจะไม่เกี่ยวข้องกันเลยก็ได้

ตัวเกมได้ดึงความเป็น Mad Max จากภาพยนตร์มาอย่างเต็มเปี่ยม ไม่ว่าจะเป็นฉากแอ็กชั่นที่บ้าระห่ำ ความรุนแรงในสังคมทะเลทราย การขับรถไล่ล่า และยังได้ความเป็นเกม open-world ในฉากขนาดมหึมา เนื้อเรื่องที่เล่นได้หลายสิบชั่วโมง ยังไม่รวมถึงภารกิจ side quest ตามรายทางอีกมากมาย ที่ทำให้เกมนี้ทั้งสนุกและน่าเบื่อได้ในเวลาเดียวกัน

เนื่อเรื่องเริ่มต้นด้วย Max ที่กลางทะเลทราย จู่ ๆ ก็ถูกไล่ล่าโดยแก๊งของ Scabrous Scrotus และ War Boys โดยหลังจากฉากต่อสู้อย่างดุเดือดที่ผู้เล่นไม่สามารถเล่นเองได้ Max ก็ได้จัดการสังหาร Scrotus ด้วยอาวุธของตัวเอง พร้อมกับได้สุนัขมาตัวหนึ่ง ซึ่งเป็นของ Scrotus ที่ถูกโยนทิ้งเนื่องจากไม่ยอมกัดพระเอกของเรานี่เอง

แล้วก็เดินทางมาพบกับ Chumbucket ชายแก่หลังค่อมที่เป็นช่างซ่อมรถที่บูชารถยนต์เหมือนเป็นของขวัญจากพระเจ้า ที่เกือบจะเอาสุนัขตัวนั้นไปชำแหละกินแล้วถ้า Max มาห้ามไว้ไม่ทัน แล้วอยู่ ๆ ก็เอารถที่ตัวเองประกอบโครงกับเครื่องยนต์ไว้ มาให้ Max ใช้เฉยเลย แถมยังยอมเป็นเด็กหลังรถ คอยยิงอาวุธและซ่อมรถให้ Max อีกด้วย โดยที่พระเอกของเราไม่ต้องเอ่ยปากขอซักคำ อารมณ์ประมาณบูชารถยนต์แล้วนับถือนักขับเป็นเหมือนนักบวช อะไรประมาณนั้น

เนื้อเรื่องหลัก ๆ ในช่วงแรกคือ Chum ต้องพา Max ไปหาชิ้นส่วนมาอัปเกรดรถ เท่าที่เล่นมาหลายชั่วโมงผมเองก็ยังไม่รู้เลยว่าพระเอกของเรานี่ต้องการจะทำอะไรกับชีวิตบ้าง นอกจากหาชิ้นส่วนมาอัปเกรดรถไปเรื่อย ๆ แต่คาดว่าคงจะเกี่ยวกับ Scrotus บอสเล็ก ๆ ที่ถูก Max สังหารไปในตอนแรกเป็นแน่ ซึ่งจากข้อมูลแล้วดูจะเป็นลูกหลานของมาเฟียนักเลงโตแถว ๆ นี้แหละครับ

ตัวละครอีกตัวที่เราจะได้พบคือ Griffa เป็นตัวละครที่จะคอยผลุบ ๆ โผล่ ๆ ตามจุดต่าง ๆ ของเนื้อเรื่อง ตามมาหลอกหลอนอยู่ทุกที่ และทุกครั้งที่เราเข้าไปใกล้ ก็จะพบกับสัญลักษณ์ประหลาดตามพื้นและผนัง หน้าที่ของ Griffa คือจะเป็นผู้ที่คอยอัปเกรดความสามารถของ Max เพื่อเพิ่มความแกร่ง ความอึดในการต่อสู้ หรือแม้แต่ความสามารถในการขับรถให้กินน้ำมันน้อยลง โดยหลังจากอัปเกรดกันไปแต่ละครั้งแล้ว ตัว Griffa และสัญลักษณ์ต่าง ๆ ก็จะอันตรธานหายไปกับสายลม เหลือเพียงพระเอกของเราที่ฟุบหมดสติอยู่บนพื้น

ระบบการเล่นหลัก ๆ ของเกมนี้จะเป็นแบบ open-world + survival นิด ๆ โดย Max ของเรามีสิ่งจำเป็นที่จะต้องหาอยู่หลัก ๆ 4 อย่างคือ

• อาหารและน้ำ สำหรับเติมพลัง HP เมื่อได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้
• น้ำมัน สำหรับใช้เติมรถยนต์ และเป็นเชื้อเพลิงระเบิดได้
• กระสุนและมีด สำหรับใช้ในการต่อสู้ ซึ่งเกมนี้มีกระสุนค่อนข้างจำกัดมาก จะใช้แต่ละครั้งต้องคิดให้ดี
• scrap หรือชิ้นส่วนรถยนต์ สำหรับใช้ในการซื้ออัปเกรดรถยนต์ ลักษณะเป็นเหมือนหน่วยสกุลเงิน ซึ่งเนื้อเรื่องบางจุดอาจจะบังคับให้เราอัปเกรดรถตามแบบที่กำหนดไว้ เพื่อให้สามารถทำภารกิจได้ แต่ตัวเกมก็มีระบบให้สามารถย้อนกลับการอัปเกรดในกรณีที่เราไม่ชอบหน้าตาแบบที่เนื้อเรื่องกำหนด โดยไม่ต้องมานั่งแต่งรถกันใหม่ครับ

ระบบแอ็กชั่นของเกมนี้สนุกครับ โดยถ้าใครได้เล่นแล้วจะรู้สึกทันทีว่ามันเหมือนกับระบบของเกมในซีรีส์ Batman Arkham มาก ทั้งการกดต่อสู้และการตั้งรับท่าที่ศัตรูโจมตี มีตัวละครบางชนิดที่สู้ตรง ๆ ไม่ได้ เรียกได้ว่าถอดแบบออกมาจาก Batman เลยก็ว่าได้ครับ แต่ก็ไม่ใช่ข้อเสียนะครับ เพราะระบบแบบนี้ก็เป็นที่ชัดเจนแล้วว่ามันค่อนข้างเวิร์ค

ระบบการขับรถของเกมนี้ก็นับว่าใช้ได้เลยครับ ช่วงแรกแรกดูจะขับยากหน่อยแต่ซักพักก็จะชิน มีแอ็กชั่นของการ ram หรือกระแทกกับรถคันอื่นขณะไล่ล่ากัน และการเล็งอาวุธขณะขับรถก็จะเป็นแบบ slow motion ทำให้ง่าย และสามารถแสดงความเท่ในการแอ็กชั่นบนรถได้เป็นอย่างดีครับ โดยอาวุธหลัก ๆ ที่จะต้องใช้ระหว่างการขับรถคือ harpoon หรือ ฉมวก ที่ทำได้ทุกอย่างตั้งแต่การดึงประตูหรือล้อรถศัตรู หรือดึงคนขับออกมาจากรถเลยก็ยังได้ครับ หรือแม้แต่การทำลายการป้องกันเช่น หอคอย sniper หรือประตูรั้ว

ระบบที่ผมชอบที่สุดในเกมนี้คงจะเป็น Capture Mode ที่ช่วยให้สามารถเก็บภาพสวย ๆ จากเกมมาแชร์กันได้ง่ายมาก โดยจะมี Photo Mode ที่สามารถหยุดเวลาและเลื่อนกล้องไปมาได้อย่างอิสระ ทำให้เราเก็บภาพมุมแปลก ๆ เท่ ๆ มาแชร์กันได้ง่าย ๆ และ Video Mode ที่จะตัดส่วนประกอบบนภาพที่ไม่จำเป็นออกไป ให้เราใช้โปรแกรมบันทึกเกมตัวไหนก็ได้เพื่อบันทึกคลิปวิดิโอจากเกม นอกจากนี้ยังสามารถใส่ฟิลเตอร์ ใส่กรอบ แปะโลโก้ ปรับความสว่าง ปรับระยะโฟกัส ให้ได้ภาพที่ถูกใจเรามากที่สุดได้ง่าย ๆ เลยครับ ตัวอย่างก็คือภาพประกอบทั้งหมดที่ในบทความนี้นี่เองครับ เป็นระบบที่ผมอยากให้มีในทุก ๆ เกมเลยจริง ๆ

ภารกิจ side quest ย่อย ๆ ในเกมนี้ ที่มีให้เห็นตามรายทาง ก็จะเป็นรูปแบบของเกม open-world ทั่วไป ซึ่่งเล่นไปซักพักอาจจะรู้สึกค่อนข้างซ้ำ ๆ เล็กน้อยครับ และแต่ละครั้งก็จะได้ค่าตอบแทนมาเป็น scrap หรือปลดล็อกการอัปเกรดอื่น ๆ ซึ่งบางครั้งภารกิจเนื้อเรื่องจะบังคับให้เราต้องไปทำภารกิจย่อย ๆ เพื่อปลดล็อกให้สามารถดำเนินเรื่องต่อไปได้ ซึ่งจุดนี้บางคนอาจจะบอกว่าน่าเบื่อ บางคนอาจจะสนุกก็ได้ครับ แล้วแต่คนจริง ๆ ครับ
ส่วนเรื่องสเป็กเครื่อง จากการเล่นของผมด้วยเครื่องโน๊ตบุ๊ก Dell Inspiron 7447 กับสเป็ก CPU Core i7-4710HQ 2.5GHz, RAM 8GB, Nvidia Geforce GTX850M สามารถปรับภาพส่วนใหญ่เป็น High/Medium ด้วยความละเอียด 1600×900 px ได้เฟรมเรตอยู่ที่ประมาณ 50 fps เกมนี้ถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดีไม่หนักมากครับ ภาพที่ได้อาจจะไม่สวยเต็มอย่างภาพตัวอย่างโปรโมทเกม แต่โดยรวมแล้วถือว่าดูดีและลื่นครับ

สรุป

ถ้าถามว่าเกมนี้น่าเล่นไหม ผมตอบได้ว่าน่าเล่นครับ ด้วยระบบการเล่นที่ทำออกมาค่อนข้างดี แอ็กชั่นที่สนุกและดูเท่ เช่นเดียวกับเกมแนวคอมโบแอ็กชั่นหลาย ๆ เกม และฉากขับรถที่ตื่นตาตื่นใจ โดยเฉพาะสำหรับคนที่ชอบจัดฉากถ่ายรูป เพราะเครื่องมือเค้ามีครบครับ แต่เกมนี้อาจจะไม่เหมาะกับคนที่เบื่อง่าย กับพวกภารกิจรองที่บางทีเนื้อเรื่องก็บังคับให้ทำ และบางคนอาจจะเบื่อกับแอ็กชั่นที่ค่อนข้างจะซ้ำ ๆ ไม่ค่อยมีอะไรใหม่มากนัก โดยรวมผมสรุปให้เป็นเกม open-world ทั่ว ๆ ไป ที่มีแอ็กชั่นมันส์ระห่ำ ระเบิดตระการตา แต่เสียตรงที่ความซ้ำ ๆ ของตัวเกมเล็กน้อย

ส่วนข้อเสียที่กวนใจผมนิดหน่อยคือ ตัวเกมนี้มีฉากที่ใหญ่มากก็จริง แต่ส่วนใหญ่ของฉากจะเป็นทะเลทรายว่างเปล่าให้เราขับรถเล่นเฉย ๆ ครับ โดยจะมี camp และ scavenging point อยู่ประปราย แต่ส่วนใหญ่ก็จะซ้ำ ๆ อย่างที่บอกไป ทำให้ฉากดูไม่ค่อยน่าสนใจ ไม่มีอะไรให้สำรวจมากนัก

บทความนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของตัวผู้เขียน หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ และโปรดชี้แนะด้วยครับ